สีรถ คือสิ่งที่ผู้ซื้อรถให้ความสำคัญมากเพราะนอกจากจะเลือกสีที่ชอบแล้ว ยังต้องถูกโฉลกอีกด้วย
ชนิดของสีรถยนต์จะปรากฎบนพื้นผิวรถยนต์ได้แตกต่างกันอย่างไร
สีรถยนต์ที่ถูกผู้ผลิตตั้งชื่อให้ดูมีความพิเศษแตกต่างกันแล้ว จะสามารถแบ่งลักษณะของสีที่ปรากฏหรือแสดงออกมาบนพื้นผิวของตัวถังรถยนต์ได้ 4แบบ ซึ่งสีแต่ละแบบจะมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป
ประเภทของสีรถตามลักษณะที่ปรากฏ
- Solid Paint มีลักษณะของเนื้อสีเดียวปกติซึ่งมักมีให้เลือกเป็นหลักจากผู้ผลิตรถยนต์โดยไม่มีการคิดเงินเพิ่ม เช่น สีขาว สีแดง สีดำ สีเทา โดยทั่วไปสี Solid Paint มักจะผ่านการทำสีแล้วเคลือบสีเพื่อป้องกันรอยขูดขีด ข้อดีคือหากต้องทำสีใหม่จะมีราคาไม่แพง ซ่อมแซมได้ง่ายโดยใช้สีเดียวกันแต้ม ค่าใช้จ่ายไม่มากและใช้เวลาไม่นาน
- Metallic มีลักษณะเพิ่มเติมจากสีธรรมดาปกติโดยการเพิ่มผงโลหะเข้าไปในเนื้อสีทำให้เกิดการสะท้อนแสง หรือมีความแวววาวมากกว่าสี Solid Paint ข้อดีคือช่วยซ่อนร่องรอยความเสียหายจุดเล็กๆได้ และช่วยให้รถดูสะอาดกว่าสีปกติ ข้อเสียคือเมื่อต้องซ่อมแซมบางส่วนของรถอาจหาสีที่เข้ากันสีเดิมได้ยาก
- Pearlescent สีที่ถูกเรียกว่าสีมุก ลักษณะที่สำคัญของสีนี้คือเปลี่ยนมาใช้ผงเซรามิกคริสตัลแทนผงโลหะ ไม่เพียงทำให้เกิดการสะท้อนแสง ยังมีการหักเหของแสงอีกด้วย ความแวววาวเปลี่ยนไปตามมุมที่มองดูรถ นอกจากทำให้รถดูเด่นแล้วยังปิดร่องรอยความเสียหายได้อีกด้วย ขอเสียคือมีราคาแพง ผู้ผลิตจึงมักมีการคิดค่าสีเพิ่มและยังอาจหาสีได้ยากเมื่อมีการทำสีเฉพาะบางส่วน
- Matte Finishes ลักษณะเด่นคือมีผิวสีที่ด้าน สร้างความโดดเด่นให้กับรถ โดยทั่วไปจะเป็นสีดำ หรือสีเทา ข้อเสียคือราคาแพง ถ้ามีรอยความเสียหายก็จะเห็นได้ชัด และดูแลรักษายาก